ถ้ำมรกต เกาะมุก ตรัง
ถ้ำมรกต หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ถ้ำน้ำ ตั้งอยู่บริเวณ เกาะมุก เป็นถ้ำน้ำทะเลที่เกิดจากมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมีความงดงามตระการตาอย่างมาก จากปากทางเข้าถ้ำซึ่งเป็นโพรงเล็ก ๆ จะเข้าออกได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น ปากถ้ำเป็นโพรงเล็กๆ การเข้าออกจะต้องลอยคอในน้ำ ลอดถ้ำอันมืดมิดผ่านเส้นทางคดโค้ง ระยะทางจากปากถ้ำเข้าไปประมาณ 80 เมตร เข้าแถวเรียงหนึ่งตามคนนำทาง จับคนข้างหน้าไว้ให้มั่น ไม่งั้นอาจหลงทางได้ เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเป็นหายทรายขาดสะอาด ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน บริเวณโพรงที่ลอดเข้า ถ้ำมรกต จะอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเกาะ เมื่อแสงอาทิตย์ทำมุมพอเหมาะ ทั้งเกาะและเวิ้งถ้ำก็จะกลายเป็นสีเขียวมรกตงดงามในทันที
การเดินทาง
1. จากจังหวัดตรังใช้ทางหลวงหมายเลข 403 ผ่านอำเภอกันตัง สู่บ้านหาดยาว มีเรือออกไปเที่ยวถ้ำมรกตและดำน้ำดูปะการังทุกวัน ที่ท่าเรือบ้านหาดยาว
2. จากจังหวัดตรังเดินทางสู่ท่าเรือหาดปากเมง แล้วเช่าเหมาเรือไปเที่ยวถ้ำมรกตได้ ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที
วันเวลาเปิด-ปิด- ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวถ้ำมรกต คือ ช่วงที่น้ำขึ้นเต็มที่ในแต่ละวัน เนื่องจากจะเห็นทะเลสาบสีมรกตงดงาม
- เวลาที่แสงจะลอดปากปล่องถ้ำมรกตลงมา คือ ระหว่าง 10.00 – 14.00 น. ซึ่งการลอดถ้ำสามารถทำได้ตลอดเวลา
-เดือนที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว คือ ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม เพราะเป็นเวลาที่น้ำลง เพื่อมุดเข้าถ้ำมรกตได้
เกาะไหง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เกาะไหง มีความเงียบสงบ นักท่องเที่ยวน้อยกว่าเกาะลันตามาก เป็นเกาะขนาดเล็ก ไม่มีทางรถยนต์บนเกาะ ไม่เหมือนเกาะลันตา ที่เป็นอำเภอ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เกาะไหงจึงเหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติและท้องทะเลจริงๆ ตลอดชายฝั่งตะวันออกยาว 2.2 กม. เป็นชายหาดสีขาว และแนวปะการังทางปลายเกาะ ทางตะวันออกเฉียงใต้เกาะ มีอ่าวเล็กๆ แถวเกาะไหงรีสอร์ท แถวท่าเรือเป็นแหล่งดำน้ำตื้นชั้นเยี่ยม หากเราเดินต่อไปทางใต้จะพบแหลมกวนอิม คล้ายเจ้าแม่กวนอิม แถวนี้เป็นจุดดำน้ำอีกจุดหนึ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ เป็นอ่าวโกตงมีหาดทรายยาว 1 กม. เป็นที่ตั้งของKoh Ngai Paradise บนเขาทิศเดียวกันนี้เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ เราสามารถดำน้ำเล่นแถวนี้ได้ เราอาจถามเจ้าหน้าที่ให้พาไปจุดชมวิว น่าจะใช้เวลาเดินเท้าสัก 2 กม. เพื่อไปถึงยอดเขาชมวิวทะเลตรังทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก ส่วนผมเองยังไม่มีโอกาสขึ้นไปจุดชมวิวที่ว่าเลย หากใครเคยไปช่วยเมล์มาคุยหรือส่งภาพสวยๆ ให้หน่อยจะเป็นพระคุณอย่างสูง
การเดินทาง
ที่ท่าเรือปากเมง จะมีเรือ Speed Boat ให้บริการอยู่ทุกวัน โดยจะใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือปากเมง - เกาะไหง ประมาณ 20 นาที แต่หากท่านเดินทางโดยเรือนำเที่ยวทั่วๆ ไป จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 45 นาที
ด้วยพื้นที่ 25,000 ไร่ ทำให้เกาะลิบงเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลตรัง และเนื่องจากรอบ ๆ เกาะเต็มไปด้วยหญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารของพะยูนไฮไลต์ของการมาเยือนเกาะนี้จึงอยู่ที่โอกาสที่คุณจะได้เซย์ไฮกับพะยูน สัตว์ที่กำลังจะสูญพันธุ์ นอกจากนี้ บนเกาะยังเป็นแหล่งรวมนกหลายชนิดทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพ เช่น นกหัวโตขาดำ นกนางนวลแกลบเคราขาวฯ จึงได้รับการประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง โดยรอบ ๆ เกาะมีแหลมและชาดหาดหลายแห่ง เช่น แหลมจุโหย แหลมทวดและหาดตูบ เวลาน้ำลดคุณสามารถเดินจากแหลมไปถึงหาดได้เลย หรือจะขึ้นเขามุกดาเพื่อชมวิวสวยแบบพาโนรามาก็ได้
การเดินทาง
ลงเรือที่ท่าเรือหาดยาว บ้านเจ้าไหม ค่าเรือคนละ 30 บาท ถ้าเช่าเหมาลำ 10 คน 800 บาท ใช้เวลา 20 นาที บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
ถือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำโดยแท้ แค่ลอยตัวออกไปไม่กี่เมตรก็เหมือนดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลลึก ทั้งดอกไม้ทะเล ปะการังเขากวางปะการังอ่อน และฝูงปลา และหลังจากเกิดสึนามิ ก็ได้มีการติดตั้งประติมากรรมใต้ทะเลหลายชิ้นที่รอให้นักดำน้ำได้ดำดิ่งไปชมความงามอีกด้วย
การเดินทาง
สามารถเหมาเรือจากท่าเรือปากเมง ประมาณ 1.800-2,500 บาท ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะใช้บริการแพ็กเกจทัวร์ในรูปแบบ One Day Tour ซึ่งมีราคาถูกกว่าและยังมีอุปกรณ์ดำน้ำให้ครบด้วย
เกาะเชือก
เป็นเกาะหินเล็ก ๆ ไร้หาด ทว่า กระแสน้ำค่อนข้างเชี่ยวจึงต้องใช้เชือกคอยพยุงตัวเวลาดำน้ำ จนกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะ แต่ก็เป็นแหล่งปะการังน้ำลึกและน้ำตื้นที่สมบูรณ์และสวยงาม โดยเฉพาะแนวกัลปังหาห้าสี รวมถึงเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงปลาหลากชนิด
การเดินทาง
การเดินทาง
สามารถเหมาเรือจากท่าเรือปากเมง ประมาณ 1.800-2,500 บาท ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะใช้บริการแพ็กเกจทัวร์ในรูปแบบ One Day Tour ซึ่งมีราคาถูกกว่าและยังมีอุปกรณ์ดำน้ำให้ครบด้วย
ตรังอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 828 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดตรังได้หลายวิธี ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง รถไฟ และเครื่องบิน
1.โดยรถยนต์
จากกรุงเทพฯ ไปตรังได้ 2 เส้นทาง คือ
- ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 41 ผ่าน สุราษฎร์ธานี ทุ่งสง แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 403 สู่อำเภอห้วยยอด จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 ไปจนถึงตรัง ระยะทางประมาณ 828 กิโลเมตร
- ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) จนถึงจังหวัดชุมพร แล้วแยกเข้าระนอง พังงา กระบี่ ตรัง ระยะทางประมาณ 1,020 กิโลเมตร
2.โดยรถประจำทาง
มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-ตรัง ออกจากสถานีขนส่ง สายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th ทรัพย์ไพศาลทัวร์ โทร. 0 2884 9584
ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com นอกจากนี้ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ไทยรูท ดอทคอม www.thairoute.com
3.โดยรถไฟ
มีรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพงไปถึงสถานีตรังทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 www.railway.co.th
4.โดยเครื่องบิน
สายการบินที่ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-ตรัง คือ นกแอร์ โทร. 1318, 0 2900 9955 www.nokair.com วันทูโก โทร. 1126, 0 2229 4100-1 www.fly12go.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น